องค์กรต่าง ๆ บนโลกที่ยังยืนหยัดอยู่ได้บนความไม่เสถียรภาพทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจหรือรูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา มักจะเป็นองค์กรที่เรียนรู้วิธีการประยุกต์ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและคิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อต่อสู้และพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ยิ่งองค์กรใดปรับตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งได้เปรียบคู่แข่งทางธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น โดยการประยุกต์รูปแบบองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงนั้น ควรต้องเริ่มจากการพัฒนาหัวใจหลักขององค์กรนั่นก็คือ “ บุคลากร ” วิธีการใดที่จะสามารถพัฒนาบุคลากรให้เรียนรู้วิธีการสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในโลกธุรกิจ

“ Agile ” ในความหมายทั่วไปแล้วนั้น อาจหมายถึงความรวดเร็ว ว่องไว แต่หากกล่าวตามความหมายทางธุรกิจ นั่นคือ การปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการที่จะปลูกฝังให้บุคลากรภายในองค์กรเรียนรู้วิธีการปรับตัวนั้น ต้องเริ่มจากการหาผู้นำ (Leader) ที่จะชักจูงความคิด ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว รวมถึงการมองภาพเดียวกัน เพื่อพัฒนาองค์กรต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงจนนำไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด

หลักสูตร Agile Leadership จึงเป็นหลักสูตรที่จะสร้างทักษะการเป็นผู้นำเพื่อก้าวสู่การเป็นหัวใจหลักในการหลอมรวมบุคลากรในองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมปรับตัวกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ด้วยการสร้างแรงจูงใจในการทำงาน เสริมพลังบวกให้แก่กันและกัน รวมถึงการสร้างบรรยากาศการทำงานรูปแบบใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสให้แต่ละคนแสดงความคิดสร้างสรรค์ของตนเองออกมา เพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ สอดรับกับโลกธุรกิจที่ต้องคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

KEY LEARNING POINT

1. การเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการนำบุคลากรในองค์กรไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทั้งวิธีการคิดและการลงมือปฏิบัติ อันนำไปสู่ความประสบผลสำเร็จขององค์กร
2. ได้เรียนรู้วิธีการเป็นผู้นำที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร (Agile Leadership) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ได้เรียนรู้ทักษะการมอบหมายให้แก่บุคลากรด้วยวิธีการสร้างแรงจูงใจ ( Motivation ) การเปิดโอกาสให้บุคลากรได้แสดงความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ การพร้อมรับฟังปัญหาต่าง ๆ อย่างจริงใจ
4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานที่นำไปสู่ความสำเร็จขององค์กร ภายใต้การประสานงานร่วมกันอย่างเป็นระบบของทั้งผู้นำและบุคลากรทั่วไป

KEY BENEFIT

1. เกิดบรรยากาศการทำงานที่ดีภายในองค์กร บุคลากรแต่ละฝ่ายในองค์กรช่วยส่งเสริมกันและกัน ทั้งในเรื่องของการทำงานและความสัมพันธ์
2. บุคลากร มีทักษะการทำงานที่พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายในองค์กร
3. เกิดวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ ที่มอบอิสระทางด้านความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการเสนอแนวทางพัฒนา แก่บุคลากร อันนำไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ
4. บุคลากร ไม่มีความกดดันจากการทำงานที่มักเกิดจากความแตกต่างทางด้านตำแหน่งงานระหว่างบุคคลและสามารถยอมรับความผิดพลาดเพื่อพร้อมเรียนรู้และพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง